การขัดเงาแบบใช้หัวเพชร เป็นการใช้ใบมีดหัวเพชรขัดหมุนด้วยความเร็วสูง สามารถใช้กับงานที่พื้นผิวเรียบ หรือเอียงได้ แต่ไม่สามารถใช้กับมุมโค้งมน

การเป่าเงาโดยใช้ไฟ เป็นวิธีการใช้เปลวไฟจากออกซีไฮโดรเจน. เปลวไฟจะละลายพื้นผิวอะคริลิคทำให้พื้นผิวเรียบ และเงา. ขั้นตอนแรกต้องขัดอะคริลิค แล้วจึงใช้ไฟเป่าอะคริลิค. อุณหภูมิของไฟ ประมาณ 800-2800 องศาเซลเซียส. เมื่อใช้ไฟเป่าเงา ควรทำอย่างช้า ๆ จะทำให้อะคริลิคค่อย ๆ เรียบขึ้น แต่มีโอกาสที่จะไหม้ และเกิดฟองอากาศได้. การเป่าไฟเหมาะสำหรับงานที่มีพื้นที่ขนาดเล็กที่ไม่สามารถใช้วิธีการขัดปรกติเข้าถึง เช่น บริเวณตรงรอยพับ, รู หรือมุม.

การใช้ผ้าขัดเงาจำเป็นต้องใช้ร่วมกับน้ำยาขัดเงา. หลังจากการขัด พื้นผิวจะเรียบเนียน แต่ไม่เหมาะกับชิ้นงานที่มีรูปร่างซับซ้อน หรือวัตถุที่มีความเว้า.

การลบขอบที่คมด้วยใช้ใบมีดเซรามิก ทำให้ขอบคมนั้นเรียบเนียนขึ้น.

การลบมุมด้าน 45° เพื่อความสวยงาม และใช้งานได้จริง นอกจากนี้ยังทำให้ด้านข้าง หรือขอบไม่คมเกินไป.

การพ่นทราย ทรายจะทำให้พื้นผิวอะคริลิคเป็นรอยเล็ก ๆ และกลายเป็นพื้นผิวฝ้า.

สารละลายชนิดนี้จะละลายพื้นผิวระหว่างอะคริลิค 2 ชิ้น เมื่อสารละลายแห้ง ทำให้อะคริลิคทั้ง 2 ชิ้นจะติดกัน. สามารถใช้ได้กับอะคริลิคทุกสี แต่เหมาะกับงานแผ่นบาง ๆ มากว่า. ใช้เวลาแห้งนาน มีคราบกาว และฟองอากาศ ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับสินค้า หรืองานที่ต้องการคุณภาพสูง.

กาว UV ใช้ได้ดีกับอะคริลิคใส เพราะแสง UV สามารถส่องผ่านอะคริลิคทำให้แห้งเร็ว และยึดติดได้แน่น (100kgf/cm2). และเหมาะสำหรับการติดกาวงานแบบ 45°, แผ่นบาง และแผ่นหนา 10 มม. ไม่ทิ้งคราบกาว หรือฟองอากาศ เหมาะกับงานที่ต้องการคุณภาพสูง.

ใช้ลวดความร้อน เพื่อทำให้อะคริลิคมีความร้อนที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส และทำการดัดก่อนที่อะคริลิคจะเย็นตัวลง